เครื่องพ่นหมอกควันเบสท์ฟ็อก

เครื่องพ่นยุง เครื่องพ่นหมอกควัน เครื่องพ่นสแตนเลส เครื่องพ่น best fog เครื่องพ่นเบสท์ฟ็อก

 

 

 

เครื่องพ่นหมอกควันชนิดสะพายไหล่ Bestfog150 

            เครื่องพ่นหมอกควัน Bestfog150 (Thermal fogging)    เป็นเครื่องพ่นหมอกควันสะพายไหล่ขนาดเล็ก เป็นเครื่องพ่นหมอกควันสแตนเลสคุณภาพสูง เครื่องพ่นเบสท์ฟ็อกถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นเครื่องพ่นที่ใช้งานได้ง่าย ด้วยการออกแบบเป็น เครื่องพ่นสตาร์ทอัตโนมัติ เพียงกดปุ่มสตาร์ทจุดเดียวก็สามารถสตาร์ทเครื่องพ่นได้ ไม่ต้องใช้มือสูบอัดปั้มลมเหมือนเครื่องพ่นยุงยี่ห้ออื่นๆ  ออกแบบมาให้เป็น เครื่องพ่นยุงกำลังสูง40 แรงม้า สามารถทำการฉีดพ่นหมอกควันสารเคมีสำหรับกำจัดยุงตัวแก่ แมลงบิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็น เครื่องพ่นยุงที่ทนทาน ซ่อมบำรุงได้ง่าย พร้อมด้วยอะไหล่บริการหลังการขายทุกชิ้น 

 

คุณลักษณะเฉพาะของ เครื่องพ่นหมอกควัน Bestfog 150

 

เครื่องยนต์ ระบบ Pulse Jet 40 แรงม้า (30 กิโลวัตต์/ชั่วโมง) 
น้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน91/95 แก๊สโซฮอล์ 91/95*
การสตาร์ทเครื่อง แบบอัตโนมัติจากแบตเตอรี่ 12 โวลท์
ขนาดละอองหมอกควัน 0.5-50 ไมครอน
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 1.8 ลิตร มีแรงดันประมาณ 1.12 บาร์
ความจุถังน้ำยาสารเคมี 8 ลิตร มีแรงดันประมาณ 0.3 บาร์
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ประมาณ 1.5 ลิตร/ชั่วโมง
อัตราการไหลของน้ำยาสารเคมี 0-40 ลิตร/ชั่วโมง
ตะแกรงป้องกันความร้อน ครอบท่อพ่นยาวประมาณ 90 เซนติเมตร
น้ำหนักเครื่องเปล่า ประมาณ 9 กิโลกรัม

 

 ข้อแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งาน เครื่องพ่นหมอกควัน Bestfog150 

 

 

> ในการใช้งานเครื่องพ่นพ่นหมอกควันสำหรับกำจัดยุงตัวแก่ แมลงบินขนาดเล็ก ควรปรับอัตราการไหลให้เหมาะสมเพื่อสร้างหมอกควันที่มีขนาดละอองหมอกที่ 0.5-30 ไมครอน โดยปล่อยน้ำยาสารเคมีที่อัตราการไหลประมาณ 25-30 ลิตรต่อชั่วโมง

> ฉีดพ่นโดยการวางระยะเป้าหมายห่างจากปลายท่อพ่นประมาณ 2-3 เมตร การวางระดับท่อพ่นขนานกับพื้นหรือมุมเงยไม่เกิน 10-30 องศา ฉีดพ่นจากชั้นบนลงล่าง ฉีดพ่นลักษณะเดินถอยหลังจากด้านในออกด้านนอก

> ก่อนหยุดการฉีดพ่นต้องปิดวาล์วน้ำยาสารเคมีทุกครั้ง และปล่อยให้น้ำยาในท่อส่งเผาไหม้จนหมดควัน ค่อยปิดเครื่องพ่น และเปิดฝาถังน้ำยาเคมีและถังน้ำมันเพื่อสลายแรงดันภายในถัง

> ทุกครั้งหลังหยุดทำการฉีดพ่นควรถ่ายน้ำยาสารเคมีออกเก็บ ไม่ควรเก็บน้ำยาที่ผสมแล้วในถังน้ำยา

> ทุกครั้งที่เติมน้ำยาสารเคมีต้องเติมผ่านกรวยที่มีตะแกรงกรองทุกครั้ง ป้องกันการอุดตันในระบบท่อน้ำยา-หัวฉีด 

> หลังจากใช้งานควรชาร์ตแบตเตอรี่ให้ประจุเต็มอยู่เสมอ ไม่ควรให้ค่าประจุแบตเตอรี่ลดเหลือต่ำ 80 เปอร์เซนต์